ประเทศออสเตรเลียแบ่งพื้นที่ออกเป็น 6 รัฐ และ 2 เขตการปกครอง ได้แก่

1. รัฐนิวเซาท์เวลล์ (New South Wales)

ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เป็นเมืองเก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรเลีย เมืองหลวงของรัฐนี้คือ ซิดนีย์ มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นและเป็นเมืองที่มีคนไทยมากที่สุด เมืองนี้นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทีคนทั่วไปรู้จักเป็นอย่างดี คือ Opera House แล้วเมืองนี้ยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีชายหาดที่สวยงาม และเป็นศูนย์กลางความเจริญทางธุรกิจที่สำคัญที่สุดของประเทศ นอกจากนี้ยังมีเมืองอื่นๆ ในรัฐนิวเซาท์เวลล์ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถาบันการศึกษาและมหาวิทยาลัย เช่น เมือง Wollongong, และ New Castle

รัฐนี้แป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยระดับโลกมากมาย ได้แก่ University of Sydney, University of New South Wales, University of Technology Sydney (UTS), Macquarie University, Australian Catholic University, Western Sydney, University of Wollongong University, Charles Sturt University, the University of New England, Southern Cross University สถาบันสอนภาษาเอกชน วิทยาลัยรัฐบาลและเอกชนต่างๆ

จำนวนประชากร : ประมาณ 7.3 ล้านคน ประมาณ 5.73 ล้านคนอาศัยอยู่ในซิดนีย์
สภาพอากาศ : อากาศแบบสบายไม่ร้อนจัดหรือหนาวจัด ฤดูร้อนจะอบอุ่น ส่วนฤดูหนาวอาจมีหิมะตกทางตอนใต้ของรัฐ อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 18-26 องศาเซลเซียสในฤดูร้อน และ 9-17 องศาเซลเซียสในฤดูหนาว
การเดินทาง : รถประจำทาง รถไฟ เรือเฟอร์รี่ และรถราง Monorail สำหรับการเดินทางภายในใจกลางเมือง
สถานที่สำคัญ : Sydney Opera House, สะพาน Harbour Bridge ที่เชื่อมระหว่างซิดนย์และนอร์ธซิดนีย์ อุทยานแห่งชาติ Blue Mountain และ Three Sisters รวมทั้งชายหาดที่มีความสวยงาม Bondi Beach และ Manly Beach เป็นต้น
ระยะเวลาเดินทางจากประเทศไทย : กรุงเทพ-ซิดนีย์ ใช้เวลาประมาณ 8-9 ชั่วโมงไปยังสนามบินนานาชาติ King Ford Smith Sydney International Airport

2. รัฐวิคตอเรีย (Victoria)

รัฐนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐนิวเซาท์เวลล์ เป็นรัฐมีขนาดเล็กที่สุดของประเทศ มีเมืองหลวงชื่อว่า เมลเบิร์น (Melbourne) ซึ่งได้รับการขนานนามว่า Garden City เนื่องจากเป็นเมืองที่มีสวนสาธารณะอยู่เป็นจำนวนมาก เมลเบิร์นได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลกว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก และมีจำนวนประชากรอาศัยอยู่เป็นอันดับสองของประเทศ ทำให้เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางด้านเชื้อชาติ ศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งเทศกาลงานรื่นเริงหรือเทศกาลงานกีฬาระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันเทนนิส Australian Open การแข่งขันรถ Formula I Grand prix หรือการแข่งม้าอย่าง Melbourne Cup เป็นต้น รัฐวิคตอเลียมีชายฝั่งที่ทอดยาวกว่า 1,000 ไมล์ เป็นแนวกั้นระหว่างมหาสมุทรทางตอนใต้และช่องแคบ Bass อีกทั้งยังเป็นการแบ่งแยกระหว่างออสเตรเลียผืนแผ่นดินใหญ่และเกาะแทสมาเนียอีกด้วย

จำนวนประชากร : ประมาณ 5.64 ล้านคน ประมาณ 4.87 ล้านคนอาศัยอยู่ในเมลเบิร์น
สภาพอากาศ : สภาพอากาศอาจมีความแปรปรวนในบางวัน ซึ่งอาจมีทั้ง 4 ฤดู ฤดูหนาวจะมีหิมะตกในบริเวณที่มีภูเขาสูง และอาจมีฝนตกด้วย อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 18-26 องศาเซลเซียสในฤดูร้อนหรือบางวันอาจร้อนจัดถึง 40 องศาเซลเซียส ฤดูหนาวอุณหภูมิเฉลี่ย 5-15 องศาเซลเซียส
การเดินทาง : รถราง (Tram) รถไฟ และ รถประจำทาง
สถานที่สำคัญ : หอแสดงศิลปะ (National Gallery of Victoria) อนุสาวรีย์ทหารผ่านศึก (The Remembrance) สถานีรถไฟหลักของเมืองที่ชื่อ Flinders Street Station ถนนเลียบมหาสมุทรหรือถนนสายทองคำ (Great Ocean Road) เสาหินสาวกทั้ง 12 (The Twelve Apostles) เกาะฟิลลิปส์สำหรับดูนกแพนกวิน (Phillips Island) Mt. Buller สำหรับผู้ที่ชอบหิมะและการเล่นสกีในฤดูหนาว และ ตลาดสดเลื่องชื่อหรือ Vitoria Market เป็นต้น
ระยะเวลาเดินทางจากประเทศไทย : กรุงเทพ-เมลเบิร์น ใช้เวลาในการบินประมาณ 9 ชั่วโมงไปยังสนามบิน Tullamarine ซึ่งเป็นสนามบินหลักของเมืองนี้
มหาวิทยาลัยในรัฐนี้ : University of Melbourne, Monash University, Swinburne University of Technology, RMIT-Royal Melbourne Institute of Technology, Victoria University, La Trobe University, Deakin University วิทยาลัยรัฐบาล Homesglen Institute of TAFE, William Angliss Institute, Gordon Institute TAFE และสถาบันเอกชนคุณภาพต่างๆ เป็นต้น

3. รัฐควีนสแลนด์ (Queensland)

รัฐควีนส์แลนด์เป็นรัฐที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ รัฐนี้ได้ชื่อว่าเป็นรัฐแห่งแสงแดด (Sunshine State) จากการที่มีแสงแดดมากกว่า 300 วันต่อปี เมืองหลวงของรัฐนี้คือ เมืองบริสเบน มีจำนวนประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นเป็นอันดับสามของประเทศ ห่างออกไปทางตอนใต้ประมาณ 1 ชั่วโมงจะเป็นแนวมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นที่ตั้งขอเมืองโกลโคสด์ (Gold Coast) ที่มีชายฝั่งและชายหาดทอดยาวเหมาะสำหรับการเล่นกิจกรรมทางน้ำอย่างกระดานโต้คลื่น ห่างจากบริสเบนไปทางเหนือประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะเป็นอีกเมืองที่เรียกว่า ซันไชน์โคส (Sunshine Coast) ซึ่งเป็นชายหาดและเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออย่าง Great Barrier Reefs ที่เป็นแนวประการังทอดยาวถึง 1,250 ไมล์ตลอดจากตอนเหนือไปยังตอนใต้ของ Great Stone

จำนวนประชากร : ประมาณ 2.56 ล้านคน ประมาณ 2.56 ล้านคนอาศัยอยู่ในบริสเบน
สภาพอากาศ : สภาพอากาศค่อนข้างอบอุ่น มีแดดตลอดทั้งปี อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 20-30 องศาเซลเซียสในฤดูร้อน ฤดูหนาวอุณหภูมิเฉลี่ย 9-20 องศาเซลเซียส
การเดินทาง : รถประจำทาง และ เรือเฟอร์รรี่
สถานที่สำคัญ : แนวประการัง Great Barrier Reefs ชายหาดโกลด์โคส สวนสนุกระดับโลก Theme Park (Movie World, Sea World, Dream World) สวนสัตว์หมีโคล่า Koala Sanctuary Park และอุทธยานแห่งชาติต่างๆ เป็นต้น
ระยะเวลาเดินทางจากประเทศไทย : กรุงเทพ-บริสเบน ใช้เวลาในการบินประมาณ 9-10 ชั่วโมงไปยังสนามบินนานาชาติบริสเบน Brisbane International Airport หรือสนามบินโกลโคสด์
มหาวิทยาลัยในรัฐนี้ : University of Queensland, Queensland University of Technology, Griffith University, James Cook University, Sunshine Coast University, Central Queensland University, University of Southern Queensland, Southern Cross University, Bond University (มหาวิทยาลัยเอกชน) และวิทยาลัยรัฐบาล เช่น TAFE Queensland และสถาบันภาษาเอกชนมากมาย

4. รัฐออสเตรเลียใต้ (South Australia)

สภาพภูมิประเทศของรัฐนี้มีความหลากหลาย ตั้งแต่เป็นพื้นที่การเกษตรเพาะปลูกพืชต่างๆจนถึงพื้นที่ที่เป็นทะเลทราย ตึกและอาคารต่างๆ ได้รับการสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่ทำให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ในอดีต เมืองหลวงของรัฐนี้คือ อะดิเลด (Adelaide) ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของประเทศ รวมไปถึงยังมีความงดงามทางธรรมชาติ ทั้งหุบเขาน้อยใหญ่ และชายหาดที่ห่างจากใจกลางเมืองไปเพียงครึ่งชั่วโมง หรือใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงก็สามารถเห็นความงดงามของหุบเขา Barossa ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผลิตไวน์อีกด้วย

จำนวนประชากร : ประมาณ 1.67 ล้านคน ประมาณ 1.40 ล้านคนอาศัยอยู่ในอะดิเลด
สภาพอากาศ : สภาพอากาศแบบเมอร์ดิเตอร์เรเนียน ฤดูร้อนจะร้อนแห้ง ในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิจะมีอากาศเย็นสบาย ส่วนในฤดูหนาวอากาศจะเย็นและชื้น ฤดูร้อน อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 17-28 องศาเซลเซียส ฤดูหนาวอุณหภูมิเฉลี่ย 8-16 องศาเซลเซียส
การเดินทาง : รถประจำทาง รถไฟและรถราง
สถานที่สำคัญ : พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Tandanya National Aboriginal Art and Culture ตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดตั้งอยู่ใจกลางเมือง Adelaide Central Market และ เมืองติดชายทะเล Glenelg
ระยะเวลาเดินทางจากประเทศไทย : กรุงเทพ-ซิดนีย์-อะดิเลด ใช้เวลาในการบินประมาณ 8-9 ชั่วโมงไปยังสนามบินซิดนีย์หรือเมลเบิร์น และ.ใช้เวลาต่อเครื่องภายในประเทศไปยังเมืองอะดิเลดประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจะบินกรุงเทพฯ-สิงคโปร์-อะดิเลด เลยก็ได้
มหาวิทยาลัยในรัฐนี้ : University of Adelaide, University of South Australia, Flinders University และเป็นที่ตั้งวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ อีกด้วย

5. รัฐออสเตรเลียตะวันตก (Western Australia)

รัฐออสเตรเลียตะวันตกมีพื้นที่ขนาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย มีพื้นที่ประมาณหนึ่งในสามของประเทศ เป็นรัฐที่มีการทำเหมืองแร่เป็นอุตสาหกรรมหลัก โดยมีเหมือง Kalgoorlie mine เป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่สุดของโลก ส่วนเหมือง Argyle mine ก็เป็นผู้ผลิตเพชรรายใหญ่สุดของโลก และอีกเหมืองคือ Broome ก็ผลิตไข่มุกรายใหญ่สุดของโลก ทั้งสามเหมืองนี้ตั้งอยู่ที่รัฐออสเตรเลียตะวันตก ซึ่งมีมูลค่าสินค้าส่งออกถึง 46% ของสินค้าส่งออกทั้งหมดของออสเตรเลีย และสามารถทำรายได้คิดเป็น 14% ของ GPD ทั้งประเทศ เมืองหลวงของรัฐนี้คือ เพิร์ธ ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่ใกล้ไทยที่สุดของออสเตรเลีย โดยใช้เวลาบินจากไทย 6 ชั่วโมง

จำนวนประชากร : ประมาณ 2.50 ล้านคน ประมาณ 2.38 ล้านคนอาศัยอยู่ในเพิร์ธ
สภาพอากาศ : สภาพอากาศถือว่าใกล้เคียงกับประเทศไทยมากที่สุด ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป ฤดูร้อนอุณหภูมิโดยเฉลี่ย 18-29 องศาเซลเซียส ฤดูหนาวอุณหภูมิเฉลี่ย 8-18 องศาเซลเซียส
การเดินทาง : รถประจำทาง รถไฟและรถราง
สถานที่สำคัญ : โรงกษาปณ์ Perth Mint สวนดอกไม้ขนาดใหญ่และฝูงหงส์ดำในอุทธยาน South West อาณาเขตไร่ไวน์ริมน้ำ Margaret River
ระยะเวลาเดินทางจากประเทศไทย : กรุงเทพ-เพิร์ธ ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่งโมงไปถึงยังสนามบินนานาชาติเพิร์ธ (Perth International Airport)
มหาวิทยาลัยในรัฐนี้ : University of Western Australia, Curtin University, The University of Notre Dame, Edith Cowan University, Murdoch University

6. รัฐแทสมาเนีย (Tasmania)

เกาะแทสมาเนียเป็นเกาะทางตอนใต้ของออสเตรเลีย และล้อมรอบไปด้วยเกาะเล็กๆ จำนวนมาก โดยเกาะ King และเกาะ Flinders ถือว่าเป็นเกาะที่มีทิวทัศน์สวยงามจนได้รับการขนานนามว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์ของออสเตรเลีย ภูเขา Wellington ได้ถูกสร้างให้เป็นเหมือนเมืองเล็กๆ ที่ประกอบไปด้วยตลาด ร้านค้าและคาเฟ่ต่างๆ วัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่นี่สะท้อนให้เห็นถึงสหราชอาณาจักรในยุคก่อน ภูมิประเทศโดยส่วนมากจะเป็นเนินและภูเขา เมืองหลวงของแทสมาเนียคือ โฮบาร์ต (Hobart)

จำนวนประชากร : ประมาณ 522,327 คน ประมาณ 240,342 คนอาศัยอยู่ในเมืองโฮบาร์ต
สภาพอากาศ : แทสมาเนียถือว่าเป็นเมืองที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดของออสเตรเลีย และอาจมีหิมะตกบนยอดเขาประปราย ฤดูร้อน อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 20-25 องศาเซลเซียส ฤดูหนาวอุณหภูมิเฉลี่ย 4-12 องศาเซลเซียส
การเดินทาง : รถประจำทาง
สถานที่สำคัญ : Salamanca Place โกดังหินทรายโบราณ ตลาดสดกัลลาลี หมู่บ้านชาวประมงดั้งเดิม และเมือง Launceston
ระยะเวลาเดินทางจากประเทศไทย : กรุงเทพ-เมลเบิร์น-โฮบาร์ต ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12-14 ชั่งโมง
มหาวิทยาลัยในรัฐนี้: University of Tasmania และ TAFE Tasmania

ออสเตรเลียประกอบด้วย 2 เขตการปกครอง

1. มณฑลนครหลวงออสเตรเลีย (Australian Capital Territory – ACT)

เขตการปกครองนี้เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของออสเตรเลียนั่นคือ แคนเบอร์ร่า (Canberra) ที่ตั้งอยู่ไปทางตอนใต้ของซิดนีย์ประมาณ 290 กิโลเมตร มีการวางผังเมืองที่เป็นระเบียบ ล้อมรอบทะเลสาปที่ขุดสร้างขึ้น และสถานที่ราชการสำคัญๆ เช่น Australian Parliament และ High Court of Australia ก็จะตั้งอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้

จำนวนประชากร :  522,327  คน  โดย 410,199 อาศัยอยู่ในเมืองแคนเบอร์ร่า
สภาพอากาศ : ฤดูร้อนอากาศแห้งและค่อนข้างร้อน โดยในระหว่างวันจะมีแสงแดดและท้องฟ้าแจ่มใส ฤดูหนาวอากาศจะเย็นและอาจมีหิมะตก ฤดูร้อน อุณหภูมิโดยสูงสุดประมาณ 28 องศาเซลเซียส ฤดูหนาวอุณหภูมิประมาณ 11 องศาเซลเซียสและอุณหภูมิลดลงในช่วงเวลากลางคืน
การเดินทาง : รถประจำทาง
สถานที่สำคัญ : ตึกรัฐสภา หอสมุดแห่งชาติ หอแสดงศิลปะแห่งชาติออสเตรเลีย อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแห่งออสเตรเลีย สถานทูตไทย หอกษาปณ์ The Australia National Botanic Gardens หอคอยและ Canberra Casino เป็นต้น
ระยะเวลาเดินทางจากประเทศไทย : กรุงเทพ-ซิดนีย์-แคเบอรร่า โดยจะใช้เวลาประมาณ 10-11 ชั่วโมง
มหาวิทยาลัยในรัฐนี้ : The Australian National University, University of Canberra รวมทั้ง Canberra Institute of TAFE

2. มณฑลตอนเหนือ (Northern Territory)

มณฑลตอนเหนือแถบนี้เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของชาวเผ่าพื้นเมืองอะบิริจิน มีเมืองหลวงดาร์วิน (Darwin) มีความทันสมัยและมีสิ่งอำนวยความสะดวกเท่าเทียมกับเมืองอื่นๆ แต่ยังคงเห็นวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ มีอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม พื้นที่ของที่นี่มีขนาดเท่ากับหนึ่งในห้าของทวีป ประกอบไปด้วยพื้นที่ที่เป็นหินไปจนถึงหุบผาใหญ่ เนินทรายขนาดใหญ่ ทะเลสาป แม่น้ำที่เชี่ยวกราก ช่องแคบระหว่างเขาขนาดใหญ่ และหน้าผาที่สูงชัน พื้นที่ตรงกลางของที่นี่เป็นทะเลทราย และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือน Alice Spring เพื่อชมความงามของภูเขาหินแดง Ayres Rock

จำนวนประชากร : ประมาณ 247,940 คน อาศัยอยู่ในดาร์วินจำนวน 154,280 คน
สภาพอากาศ : สภาพอากาศเป็นแบบร้อนชื้น ตอนกลางของเมืองจะมีอากาศแห้งและเป็นแบบทะเลทราย อุณหภูมิในช่วงเวลากลางวันสูงสุด 35 องศาเซลเซียสในระหว่างเดือนตุลาคมจนถึงมีนาคมและในเวลากลางคืนจะมีอุณภูมิเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 20 องศาเซลเซียส ในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 25 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิจะลดลงเหลือ 0 องศาเซลเซียสในตอนกลางคืน เมืองดาร์วินจะไม่มีฤดูหนาว สภาพอากาศจะเป็นแบบร้อนชื้น
การเดินทาง : รถประจำทาง และรถไฟ
สถานที่สำคัญ : Alice Spring Desert Park ภูเขาหินแดง วนอุทยาน Kakadu National Park พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ศูนย์อารยธรรมของชาวอะบอริจิน อุทยานแห่งชาติ Uluru-Kata Tjuta (Ayers Rock and the Olgas)
ระยะเวลาเดินทางจากประเทศไทย : กรุงเทพ-บริสเบน-ดาร์วิน โดยจะใช้เวลาประมาณ 11-12 ชั่วโมง
มหาวิทยาลัยในรัฐนี้: Charles Darwin University