การเดินทางโดยรถไฟเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการเดินทางที่มีเสน่ห์แตกต่างจากการเดินทางในรูปแบบอื่นๆ เพราะรถไฟจะทำให้คุณได้ดื่มด่ำบรรยากาศและความงามตลอดเส้นทาง รวมถึงพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดกับผู้คนที่มีจุดหมายปลายทางเดียวกัน แล้วจากลอนดอนจะมีเส้นทางไหนที่น่าสนใจกันบ้าง ไปดูกันเลยจ้าา

เส้นทางที่ 1: London – Avignon

เส้นทางจาก London สู่ Avignon (อาวีญง) เป็นเมืองทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Rhône อาวีญงได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองแห่งพระสันตะปาปา" เนื่องจากในอดีต เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสันตะปาปาตั้งแต่ปีค.ศ. 1309 - ค.ศ. 1423 นอกจากนี้อาวีญงยังเป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองในประเทศฝรั่งเศสที่ยังมีกำแพงเมืองเก่าที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และยังมีศูนย์ประวัติศาสตร์พระราชวังพระสันตะปาปา สะพานอาวีญง ซึ่งยังอยู่ในสภาพดีและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกเมื่อปีค.ศ. 1995 พร้อมชมทัศนียภาพของเนินเขาซึ่งปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าและหมู่บ้านน้อยใหญ่ตลอดเส้นทาง ผ่านลียง (Lyon) เมืองแห่งมนต์เสน่ห์สวรรค์ของบรรดานักชิม, ไร่องุ่นที่รายล้อมอยู่ตามหุบเขา Rhône Valley เมื่อมองออกนอกหน้าต่าง สามารถมองเห็นเทือกเขา Massif Central ทางด้านขวา พร้อมกับชื่นชมเทือกเขา Alps อันเลื่องชื่อทางด้านซ้ายมืออีกด้วย

การเดินทาง - จากสถานีรถไฟเซนต์แพนครัส (London St Pancras) สู่สถานีรถไฟ Avignon TGV ด้วยรถไฟ Eurostar และเดินทางต่อเข้าสู่ตัวเมือง Avignon ด้วย shuttle train หรือ รถบริการ Navettes ซึ่งให้บริการฟรีสำหรับผู้ถือบัตรโดยสาร Eurostar

ระยะเวลาการเดินทาง – 7 ชั่วโมง

เส้นทางที่ 2: London - St Ives

เส้นทางจาก London สู่ St Ives (เซนต์ไอฟส์) เมืองชายทะเลในเขตเทศมณฑล Cornwall ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหราชอาณาจักร เป็นเมืองที่มีขึ้นชื่อสำหรับการมาพักผ่อนริมชายหาด พบกับบรรดารีสอร์ทริมทะเลบรรยากาศสุดผ่อนคลายที่หาด Porthmeor หรือหาด Porthminster นอกจากนี้เซนต์ไอฟส์ยังเป็นศูนย์กลางงานศิลป์ที่มีพื้นที่สำหรับจัดแสดงงานนิทรรศการที่หมุนเวียนกันอยู่อย่างต่อเนื่อง

ระหว่างการเดินทางหากลองสังเกตดีๆ จะมองเห็นรูปม้า Westbury White Horse ขนาดใหญ่ ซึ่งถูกแกะสลักไว้บนเนินเขา Salisbury Plain โดดเด่นอยู่ท่ามกลางต้นหญ้าสีเขียวชะอุ่ม และความพิเศษของเส้นทางนี้เราจะได้ข้ามแม่น้ำ Tamar ผ่านสะพาน Royal Albert Bridge ที่ออกแบบโดยวิศวกรชื่อดัง Isambard Kingdom Brunel และก่อนถึงสถานีปลายทาง รถไฟจะเคลื่อนขบวนตามเนินเขาให้ได้ชื่นชมทัศนีย์ภาพของอ่าว St Ives จนได้พบกับเมืองชายทะเลที่สวยงามราวกับภาพวาด

การเดินทาง - จาก London เดินทางสู่เมือง Penzance ด้วยรถไฟขบวน Cornish Riviera Express และจาก Penzance เดินทางต่อไปยัง St Ives ด้วยเส้นทางรถไฟ St Ives Bay Line

ระยะเวลาการเดินทาง – 6 ชั่วโมง

เส้นทางที่ 3: London - Barcelona

เส้นทางจาก London สู่ Barcelona (บาร์เซโลนา) เมืองที่คนไทยคุ้นหูจากชื่อทีมฟุตบอล เมืองใหญ่อันดับสองของสเปน ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน บาร์เซโลนาเป็นเมืองชั้นนำที่มีนักท่องเที่ยว เศรษฐกิจงานแสดงสินค้า และวัฒนธรรมที่ดีที่สุดเมืองหนึ่งของโลก โดยมีชื่อเสียงทั้งด้านการค้า การศึกษา สื่อบันเทิง แฟชัน วิทยาศาสตร์ และศิลปะ มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สำคัญมากมาย แทนที่จะเลือกใช้รถไฟ TGV high speed ลองเปลี่ยนมาดื่มด่ำความงามตลอดเส้นทางด้วยราคาที่สบายกระเป๋ากับรถไฟขบวนนี้ที่จะพาคุณออกเดินทางผ่านหุบเขา Rhône คุณจะได้พบกับบรรดาหมู่บ้านเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความน่ารักอบอุ่น ได้ยลโฉมความงามของปราสาท Foix ก่อนเข้าสู่เส้นทางที่ทอดผ่านเทือกเขาหิมะ Pyrenees แล้วจึงเดินทางต่อจากสถานี Latour-de-Carol ที่จะแล่นลงจากภูเขาลงสู่เมือง Barcelona เพื่อจะได้ชื่นชมน้ำตกที่ไหลลงมาตามธรรมชาติ บ้านเรือนหลังเล็กที่อยู่บนภูเขาและร่องรอยประวัติศาสตร์บนซากปรักหักพังที่หลงเหลืออยู่

การเดินทาง - จาก London เดินทางไปยัง Paris ด้วยรถไฟ Eurostar จากนั้นเดินทางต่อไปยัง Latour-de-Carol ด้วยรถไฟเที่ยวกลางคืน Intercité de Nuit couchette train และเดินทางสู่  Enveitg และต่อไปที่ Barcelona ด้วยรถไฟท้องถิ่น (local train)

ระยะเวลาการเดินทาง – 2 วัน

เส้นทางที่ 4: London - Milan

เส้นทางจาก London สู่ Milan (มิลาน) เมืองที่พลาดไม่ได้เมื่อคุณเดินทางมาเยือนอิตาลี มิลานตั้งอยู่ทางภาคเหนือของอิตาลี เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ มีสถานที่สำคัญได้แก่ มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือ Duomo สร้างในสถาปัตยกรรมแบบโกธิก เป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอับดับสองรองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงวาติกัน สัมผัสบรรยากาศของการเดินทางเลียบไปตามทะเลสาบ Como และภูเขาเขียวขจี เส้นทางจาก Tirano จะเป็นทางชันขึ้นสู่แนวเขา Bernina Pass หน้าต่างรถไฟบานใหญ่ เราจะสามารถชื่นชมทัศนียภาพที่ปกคลุมด้วยสายหมอกของเทือกเขา Alps ได้อย่างจุใจ

การเดินทาง - จาก London เดินทางไปยัง Paris ด้วยรถไฟ Eurostar จากนั้นเดินทางต่อไปยัง Zurich ด้วยรถไฟ TGV และเดินทางสู่  Milan ด้วยรถไฟ Bernina Express

ระยะเวลาการเดินทาง – 2 วัน

เส้นทางที่ 5: London - Budapest

เส้นทางจาก London สู่ Budapest (บูดาเปสต์) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของฮังการี ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่มีความงดงามติดอันดับโลกจนได้รับสมญานามว่า “บูดาเปสต์ ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” ด้วยทัศนียภาพบนสองฝั่งแม่น้ำดานูบ (Danube) แม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านกลางเมือง และภูมิประเทศที่เป็นเนินเขาสลับซับซ้อนเรียกว่าฝั่งบูดา (Buda) ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมโบราณและศิลปวัฒนธรรมอันเก่าแก่ ส่วนฝั่งเปสต์ (Pest) มีลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นราบ เป็นย่านธุรกิจการค้าที่สำคัญของเมือง ขบวนรถไฟพิเศษสุดหรูหรา Balkan Odyssey ที่จะเริ่มเดินทางจาก Venice แล่นไปตามชายฝั่งทะเล Adriatic และจะหยุดพักตามจุดต่างๆในยุโรป และไม่ว่าจะเพลิดเพลินกับการสำรวจสถานที่ต่างๆแค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อนั่งอยู่บนรถไฟ เราต้องไม่พลาดที่จะเฝ้าชมความงามบรรดาปราสาทสไตล์โกธิค เทือกเขา Carpathian ใน Romania และ แม่น้ำ Danube ใน Hungary ที่ส่องประกายจับตา

การเดินทาง - จาก London เดินทางไปยัง Paris ด้วยรถไฟ Eurostar จากนั้นเดินทางต่อไปยัง Turin ด้วยรถไฟ TGV จาก Turin และเดินทางสู่ Venice ด้วยรถไฟ Trenitalia และใช้รถไฟ The Balkan Odyssey เพื่อเดินทางจาก Venice ไปยัง Budapest

ระยะเวลาการเดินทาง – 11 วัน

เส้นทางที่ 6: London - Prague

เส้นทางจาก London สู่ Prague  (ปราก) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองสุดโรแมนติกอีกเมืองหนึ่งของโลก มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่งดงาม สิ่งก่อสร้างเก่าแก่ที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็น ปราสาท อาคาร บ้านเรือน สะพาน หรือโบสถ์ต่างๆ รวมทั้งพื้นที่ทางประวัติศาสตร์และความอบอุ่นเป็นกันเองของชาวเมือง รวมถึงมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม จนได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลกด้านวัฒนธรรม เมื่อ ค.ศ.1992 ระหว่างเส้นทางเราจะเดินทางผ่านประเทศเยอรมัน ซึ่งเราสามารถมองเห็นแม่น้ำ Elbe หนึ่งในแม่น้ำสายสำคัญของยุโรป และเมื่อออกเดินทางจาก Dresden มุ่งไปทางใต้ เราจะพบกับ Bad Schandau เมืองแห่งบ่อน้ำแร่ที่งดงาม และปราสาท Děčín Castle ที่ซึ่งแม่น้ำ Elbe และแม่น้ำ Ploučnice ไหลมาบรรจบกัน เส้นทางรถไฟต่อจากนี้จะเลียบไปตามแม่น้ำ Vltava จนถึงที่หมายของเรา

การเดินทาง - เดินทางจากสถานีรถไฟเซนต์แพนครัส (London St Pancras) ไปยัง Brussels ด้วยรถไฟ Eurostar จากนั้นเดินทางต่อไปยัง Berlin และ Dresden ด้วยรถไฟ ICE (Intercity-Express) และจาก Dresden เข้าสู่ Prague ด้วย Czech Railways

ระยะเวลาการเดินทาง – 20 ชั่วโมง

เส้นทางที่ 7: London - Venice

เส้นทางจาก London สู่ Venice (เวนิส) เมืองแห่งสายน้ำมนต์เสน่ห์แห่งอิตาลี เมืองเล็กๆกระทัดรัดที่เหมาะกับการท่องเที่ยวสำหรับคนที่มีเวลาไม่มาก เวนิสเมืองสุดโรแมนติกที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ การล่องเรือในแกรนด์คาแนลชื่อดัง สถาปัตยกรรมที่ชวนหลงไหล และสีสันของเกาะอย่าง Murano หรือ Burano จะทำให้คุณตกหลุมรักเวนิสเข้าอย่างจัง นอกจากนี้เวนิสยังได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกอีกด้วย

นอกจากบรรยากาศสุดโรแมนติกของจุดมุ่งหมายอย่างเวนิส เมื่อก้าวเท้าขึ้นขบวนรถไฟ Orient Express คุณจะไม่สามารถละสายตาจากรูปแบบการตกแต่งตัวขบวนตามแบบฉบับ Art Deco ขบวนรถไฟสุดหรูที่จะเปิดประสบการณ์การนั่งรถไฟในอีกรูปแบบหนึ่งที่คุณจะประทับใจไม่รู้ลืม เมื่อซึมซับความสวยของขบวนรถไฟจนจุใจแล้ว อย่าลืมมองออกนอกหน้าต่างไปชมทิวทัศน์ที่งดงามของภูเขาและหุบเขาอันเขียวชอุ่ม การเดินทางของคุณเริ่มต้นขึ้นเมื่อรถไฟพาคุณแล่นผ่านชนบทฝรั่งเศส คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับอาหาร 4     คอร์สหลักและแชมเปญสุดหรู และตอนเช้าที่คุณตื่นมาวิวจากเทือกเขา Swiss Alps จะรอพร้อมต้อนรับคุณพร้อมจิบกาแฟในยามเช้าก่อนเดินทางถึงเวนิส

การเดินทาง - เดินทางจากสถานีรถไฟ London Victoria สู่ Folkestone ด้วยรถไฟขบวน Belmond British Pullman จากนั้นนั่ง Shuttle จาก Folkestone ไปขึ้นรถไฟ Orient Express ที่ Paris และเดินทางจาก Paris สู่ Venice ด้วยรถไฟ Orient Express

ระยะเวลาการเดินทาง – 36 ชั่วโมง